วันเสาร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

เที่ยวลิกเตนสไตน์กันไหม? (Liechtenstein)

 เที่ยวลิกเตนสไตน์กันไหม? (Liechtenstein) 


.

ลิกเตนสไตน์ ประเทศขนาดเล็กในยุโรป ที่ไม่เคยเกิดสงคราม

ลิกเตนสไตน์
ลิกเตนสไตน์

“ลิกเตนสไตน์” คือประเทศขนาดเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในยุโรปกลาง และไม่มีทางออกสู่ทะเล ถูกล้อมลอบด้วยประเทศออสเตรียในตะวันออก สวิตเซอร์แลนด์ในด้านตะวันตก และภูมิประเทศ 2 ใน 3 ประกอบไปด้วยภูเขาสูง ที่ส่วนใหญ่เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ และมีแม่น้ำไรน์ไหลผ่านทางด้านตะวันตกของประเทศ ทั้งนี้ ลิกเตนสไตน์นั้น ถึงแม้จะมีพื้นที่ขนาดเล็ก แต่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย ที่สำคัญยังเป็นที่นิยมของผู้คนที่ชื่นชอบการเล่นกีฬาฤดูหนาว และยังมีชื่อเสียงในฐานะการเป็นประเทษที่มีอัตราเก็บภาษีต่ำมากอีกด้วย จึงทำให้เหมาะกับคนที่ชื่นชอบการจับจ่ายใช้สอยเช่นกัน

จากประวัติศาสตร์ในปี ค.ศ 1719 เจ้าชายแห่งลิกเตนสไตน์ โยฮันน์ที่ 1 โยเซฟ ได้ทำการซื้อแคว้นที่อยู่ภายใต้การครอบครองของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์มาจำนวน 2 แห่งด้วยกัน นั่นคือ “วาดุซ” และ “เซลเลนบูร์ก” และต่อมาในปี ค.ศ. 1815 ดินแดนแห่งนี้ได้ตกเป็นส่วนหนึ่งของสมาพันธรัฐเยอรมัน ก่อนแยกออกมาตั้งตัวเป็นอิสระในปี ค.ศ. 1866 ซึ่งถือเป็นประเทศแห่งเดียวในยุโรปศตวรรษที่ 20 ที่ไม่เคยประวัติศาสตร์การเกิดสงคราม


สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในลิกเตนสไตน์


เมืองวาดุซ (Vaduz)
เมืองวาดุซ (Vaduz)

1. เมืองวาดุซ (Vaduz) เมืองหลวงของประเทศลิกเตนสไตน์ ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไรน์ (Rhine River) ระหว่างประเทศออสเตรีย และสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเมืองมีความโดดเด่นในเรืองวิวของเทือกเขาแอลป์ และสถานที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น ที่ทำการรัฐบาล, โบสถ์, พิพิธภัณฑ์, หอศิลป์, ศาลาว่าการเมือง, ร้านอาหาร


หอศิลป์ลิกเตนสไตน์ (Kunstmuseum Liechtenstein)
หอศิลป์ลิกเตนสไตน์ (Kunstmuseum Liechtenstein)

2. หอศิลป์ลิกเตนสไตน์ (Kunstmuseum Liechtenstein) ตั้งอยู่ในสถานที่ทันสมัยที่สุดในลิกเตนสไตน์ ซึ่งหอศิลป์แห่งนี้ ได้เก็บรวบรวมศิลปะสมัยเก่าและสมัยใหม่อยู่เป็นจำนวน และยังมีการจัดนิทรรศการที่น่าสนใจให้ได้ชมเป็นประจำ ทั้งนี้ นอกจากผลงานศิลปะและนิทรรศการแล้ว ก็ยังมีผลงานสำคัญทางประวัติศาสตร์จากศตวรรษที่ 19 รวมถึงประติมากรรมและผลงานชิ้นสำคัญของเจ้าชายแห่งลิกเตนสไตน์ให้ได้ชมกันอีกด้วย


พิพิธภัณฑ์แห่งชาติลิกเทนสไตน์ (Liechtenstein National Museum)
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติลิกเทนสไตน์ (Liechtenstein National Museum)

3. พิพิธภัณฑ์แห่งชาติลิกเทนสไตน์ (Liechtenstein National Museum) พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่ในโรงแรมเก่าแก่ที่มีการอนุรักษณ์ไว้เป็นอย่างดีตั่งแต่ศตวรรษที่ 15 ซึ่งพิพิธภัณฑ์แห่งชาติลิกเทนสไตน์ จะมุ้งเน้นไปที่การจัดนิทรรศการในยุคก่อนประวัติศาสตร์ของประเทศ พร้อมกับมีการจัดแสดงของอาวุธและศิลปะทางศาสนา


ปราสาทกูเทนแบร์ก (Gutenberg Castle)
ปราสาทกูเทนแบร์ก (Gutenberg Castle)

4. ปราสาทกูเทนแบร์ก (Gutenberg Castle) ปราสาทเก่าแก่ในสมัยยุคหินใหม่ ที่มีการค้นพบทางโบรารคดีที่สำคัญหลายแห่ง โดยเฉพาะรูปปั้นโบราณ Mars von Gutenberg ที่มีชื่องเสียง รวมถึงโบสถ์และสวนกุหลาบ พร้อมด้วยเทศกาลที่น่าสนใจอีกมากมายที่รอให้ผู้มาเยือนได้สัมผัส


เขตอนุรักษ์ธรรมชาติ (Ruggeller Riet)
เขตอนุรักษ์ธรรมชาติ (Ruggeller Riet)

5. เขตอนุรักษ์ธรรมชาติ (Ruggeller Riet) เขตอนุรักษณ์ธรรมชาติที่มีพื้นที่ 90 เอเคอร์แห่งนี้ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนมีโอกาศพบเจอสัตว์หายาก พร้อมกันนี้ ยังมีเส้นทางเดินสำรวจธรรมชาติที่เต็มไปด้วยพืชพันธ์และวิวทิวทัศน์ที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะทุ้งหญ้ากว้างตัดกับเนินเขาสลับซับซ้อน ที่สำคัญ เขตอนุรักษ์ธรรมชาติแห่งนี้ ยังสามารตั้งแคมป์และปิกนิกได้อีกด้วย


เมนูอาหารลิกเตนสไตน์ และต้องลองเมื่อได้เที่ยวทัวร์ลิกเตนสไตน์


อาหารลิกเตนสไตน์
อาหารลิกเตนสไตน์

โดยทั่วไปแล้ว อาหารของชาวลิกเตนสไตน์ก็เหมือนกับบรรดาประเทศยุโรป ที่ยุโรปมีเมนูไหนอร่อย ๆ ที่ลิกเตนสไตน์เองก็มีไม่แตกต่างกัน เช่น แฮมเบอร์เกอร์ สเต็ก พิซซ่า หรือสปาเก็ตตี้ เป็นต้น แต่มีเพียงอาหาร 2 อย่างเท่านั้น ที่ถือว่าเป็นเมนูอาหารพื้นเมืองขนานแท้ของลิกเตนสไตน์ คือ
1. ว่าตูอาร์คา เรเบล เมนูที่ทำขึ้นจากข้าวโพด
2. คาสคน็อฟเล เส้นพาสต้าอบชีส


เรื่องราวน่ารู้ก่อนเตรียมตัวไปเที่ยวทัวร์ลิกเตนสไตน์


1. ลิกเตนสไตน์มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง แต่ก็เป็นหนึ่งในประเทศที่มีรายได้ประชากรต่อหัวสูงที่สุดในโลก
2. มีภาคการเงินขนาดใหญ่ พร้อมกับมีการเปิดเสรีในการแลกเปลี่ยนเงินตรา
3. ลิกเตนสไตน์คือไม่กี่ประเทศในโลก ที่มีการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทมากกว่าประชากรของประเทศ ซึ่งมีจำนวน 34,000 คน
4. เศรษฐกิจส่วนใหญ่ของลิกเตนสไตน์พึ่งพาสมาพันธรัฐสวิส ซึ่งจัดตั้งสหภาพศุลกากรกับสมาพันธรัฐสวิส และใช้สกุลเงินฟรังก์สวิส
5. ถนนทั้งหมดในลิกเตนสไตน์มีความยาวรวมทั้งสิ้น 380 กิโลเมตร และความยาว 90 กิโลเมตรคือช่องทางสำหรับจักรยาน ส่วนทางรถไฟภายในประเทศมีความยาวเพียง 9.5 กิโลเมตรเท่านั้น


ตรวจเช็คสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง ที่ลิกเตนสไตน์มี 4 ฤดูกาลดังนี้


ฤดูกาลในลิกเตนสไตน์
ฤดูกาลในลิกเตนสไตน์

ภูมิอากาศของลิกเตนสไตน์นั้น เป็นแบบภาคพื้นยุโรป คือมีอากาศเย็นเป็นส่วนใหญ่ ในฤดูมีเมฆหมอกหนาทึบ ประกอบกับมีฝนและหิมะ ในฤดูร้อนอากาศค่อนข้างอบอุ่น ชื้น และมีเมฆปกคลุม ซึ่งภูมิประเทศจะแบ่งออกเป็น 2 โซน คือ แบบพื้นที่ต่ำแถบเขตเชลเลนแบร์กใกล้แม่น้ำไรน์ และเขตที่สูงแถบเขตเทือกเขาแอลป์ (บริเวณเมืองหลวงวาดุซ)
1. ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม)
2. ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม)
3. ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน)
4. ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์)


เมื่อมาเที่ยวทัวร์ลิกเตนสไตน์ ของฝากที่ควรซื้อจากลิกเตนสไตน์


ของฝากที่ควรซื้อจากลิกเตนสไตน์
ของฝากที่ควรซื้อจากลิกเตนสไตน์

ไวน์คุณภาพดีคือของฝากยอดนิยม เนื่องจากการทำไวน์คือความภาคภูมิใจของคนลิกเตนสไตน์ ถึงแม้จะมีพื้นที่สำหรับเพาะปลูกน้อย เพียง 54 เอเคอร์ แต่ก็มีความอุดมมสมบูรณ์ของดิน และมีแสงแดดออก 1,500 ชั่วโมงต่อปี ประกอบกับมีโรงงานผลิตไวน์ที่มีความทันสมัย จึงทำให้คุณภาพดีไม่แพ้ไวน์สวิส นอกจากนี้ ก็ยังมีของฝากที่น่าสนใจหลายอย่าง เช่น
1. แสตมป์
2. เครื่องใช้โลหะ
3. เครื่องปั้นดินเผา
“ซึ่งสินค้าข้างต้นนั้น ล้วนเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญของลิกเตนสไตน์ จึงช่วยการันตีในเรื่องของคุณภาพได้เป็นอย่างดี”


ที่มา  ::   traveligo.com





ลิกเตนสไตน์ รุกธุรกิจ ไพรเวทแบงก์

 

ลิกเตนสไตน์ รุกธุรกิจ ไพรเวทแบงก์



ราชวงศ์เก่าแก่ในยุโรป “ลิกเตนสไตน์” รุกธุรกิจ “ไพรเวทแบงก์” บริหารความมั่งคั่งไร้พรมแดน ดูแลความรวยให้เศรษฐีไทย เปิดสาขา LGT แห่งที่ 3 ในเอเชีย ย้ำเศรษฐีทั่วโลกชอบลงทุนแบบเดียวกัน “ธุรกิจตัวเอง-อสังหาฯ-ตลาดเงินตลาดทุน”

ราชวงศ์แห่งลิกเตนสไตน์ (Princely House of Liechtenstein) เป็นเจ้าของและบริหาร LGT กลุ่มบริษัทด้านการบริการไพรเวทแบงก์และการจัดการสินทรัพย์ซึ่งเป็นเอกชนที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ดำเนินธุรกิจมาเกือบร้อยปี มีสำนักงานใหญ่ที่เมืองวาดุซ ประเทศลิกเตนสไตน์ ในช่วงกลางปี พ.. 2561 บริหารสินทรัพย์รวมมูลค่าถึง 2.075 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 6.5 ล้านล้านบาท สำหรับในเอเชีย LGT เป็นไพรเวทแบงก์ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 12 มีมูลค่าสินทรัพย์ที่บริหารมากกว่า 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1.9 ล้านล้านบาท อันดับความน่าเชื่อถือของ LGT Bank อยู่ที่ Aa2 จากการจัดอันดับของมูดี้ส์ และ A+ จากแสตนดาร์ดแอนด์พัวร์ส มีการวัดความแข็งแกร่งทางการเงินโดยมีเงินกองทุนขั้นที่ 1 ในระดับ 18.7% มีฐานะการเงินมั่นคง มีพนักงานมากกว่า 3,000 คน ในสำนักงานมากกว่า 20 แห่งในยุโรป เอเชีย อเมริกา และตะวันออกกลาง

ราชวงศ์แห่งลิกเตนสไตน์ในยุโรปเก่าแก่กว่า 900 ปี มีธุรกิจครอบครัวคือ LGT Bank ก่อตั้งในปี 1920 ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เกษตรกรรมและป่าไม้ ประเทศลิกเตนสไตน์ปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป มีเศรษฐกิจที่เติบโตเข้มแข็ง ไม่มีภาระหนี้สาธารณะ มีอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ระดับ AAA มีกฎหมายการเงินมากว่า 150 ปี และเป็นศูนย์กลางการเงินในอันดับต้นๆ ของโลก

เมื่อวานนี้ 6 มีนาคม 2562 LGT เปิดสำนักงานในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ภายใต้ชื่อบริษัทหลักทรัพย์ แอลจีที (ประเทศไทยจำกัด โดยเจ้าชายฟิลลิพ ฟอน อุนด์ ซู ลิกเตนสไตน์ (H.S.H. Prince Philipp von und zu Liechtenstein) ประธานบริษัท LGT เจ้าชายฮูเบอร์ตัส อลอยซ์ ฟอน อุนด์ ซู ลิกเตนสไตน์ (H.S.H. Prince Hubertus Alois von und zu Liechtenstein) กรรมการบริหาร LGT ได้ทรงร่วมในพิธีเปิด พร้อมด้วย ดร.เฮนรี ไลเมอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LGT Private Banking Asia และคณะผู้บริหารของสำนักงานแห่งใหม่ในประเทศไทย

LGT ในไทยจะขับเคลื่อนและขยายตัวทางการตลาดภายใต้การดูแลโดย “กานต์ คฤหเดช” ซึ่งมีประสบการณ์ด้านไพรเวทแบก์มากว่า 20 ปี และมี “เอกภพ เมฆกัลป์จาย” ที่มีประสบการณ์ด้านธุรกิจตลาดเงินตลาดทุนและการบริหารความมั่งคั่งมากว่า 16 ปี ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญของกลยุทธ์การพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนในเอเชีย เนื่องจากประเทศไทยเป็นตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีโอกาสที่น่าสนใจมากมาย โดยมีฐานลูกค้า นักลงทุนไทยมีการออมในระดับสูง ตลอดจนหน่วยงานกำกับดูแลของไทยเปิดให้นักลงทุนขยายการลงทุนไปทั่วโลก ดังนั้น การเปิดสำนักงานประจำในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นแห่งที่ 3 ในเอเชีย เพื่อบริการด้านการลงทุนและการบริหารความมั่งคั่งระดับโลกแก่กลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ (high net worth individuals) และลูกค้าระดับองค์กร จึงเป็นการเปิดโอกาสให้สามารถให้คำปรึกษาและสนับสนุนลูกค้าชาวไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังสนับสนุนการดำเนินงานด้านไพรเวทแบงก์ของ LGT ในฮ่องกงและสิงคโปร์อีกด้วยซึ่งในช่วงปีที่ผ่านมาภูมิภาคนี้เติบโตได้อย่างน่าพอใจ

สำหรับนักลงทุนรายใหญ่ทั่วโลกที่มีความมั่นคงสูง โดยทั่วไปจะลงทุนในธุรกิจของตัวเองเป็นหลักในอันดับแรก แล้วจะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ จากนั้นจะลงทุนในตลาดเงินตลาดทุนซึ่งมีมากขึ้น และที่สำคัญยังขยายการลงทุนไปต่างประเทศ จึงเป็นโอกาสให้ LGT นำเสนอความเชี่ยวชาญในการบริหารความมั่งคั่งแบบไร้พรมแดน นอกจากนี้ LGT ยังบริหารทรัพย์สินให้กับราชวงศ์ลิกเตนสไตน์ ดังนั้น บริการที่นำเสนอต่อราชวงศ์จึงนำมาให้บริการแก่ลูกค้าทั่วไปด้วย ขณะที่การมีโครงสร้างผู้ถือหุ้นที่มั่นคง เครือข่ายระหว่างประเทศที่ครอบคลุม แนวทางการดำเนินงานที่เข้าถึงความต้องการของลูกค้าเฉพาะบุคคล และประสบการณ์ความเชี่ยวชาญของที่ปรึกษาด้านการดูแลสินทรัพย์ รวมทั้งการโฟกัสหรือมุ่งให้บริการเฉพาะไพรเวทแบงก์อย่างเดียว เป็นจุดเด่นดึงดูดลูกค้า

 ไทยมีมหาเศรษฐีมากเป็นอันดับ 9 ของเอเชีย / มหาเศรษฐีทั่วโลกชอบลงทุนอะไร

เว็บไซต์ maruey.com ให้ข้อมูลรายงาน The Wealth Report 2018 ของ Knight Frank ที่เปิดเผยเมื่อเดือนมีนาคม 2561 ทำให้รู้ว่า เมื่อปี 2560 ประเทศไทยมี “มหาเศรษฐี” ที่มีทรัพย์สินมากกว่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,700 ล้านบาท อยู่ทั้งหมด 770 คน จากจำนวนทั้งหมด 129,730 คนทั่วโลก มากเป็นอันดับ 9 ของเอเชีย และได้รับการคาดหมายว่าในปี 2565 จำนวนมหาเศรษฐีไทยจะเพิ่มขึ้นอีก 210 คนเป็น 980 คน

สำหรับ “พอร์ตโฟลิโอ” ของมหาเศรษฐีทั่วโลกพบว่า มหาเศรษฐีทั่วโลกเพิ่มการลงทุนใน “หุ้น” มากที่สุด อยู่ที่ 52% โดยมหาเศรษฐีชาวเอเชียลงทุนเพิ่มขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น อยู่ที่ 78% รองลงมาเป็นทวีปอเมริกาเหนือ อยู่ที่ 65% ละตินอเมริกา 62% และถ้าประเมินจากผลตอบแทนจากตลาดหุ้นในปี 2560 แล้ว “คนรวยแล้วจะรวยขึ้น

ขณะที่ “อสังหาริมทรัพย์” ทั้งที่เป็นอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนที่อยู่อาศัยและที่พักเพื่อท่องเที่ยวพักผ่อน ได้รับความนิยมมากขึ้นโดยมีการลงทุนเพิ่มถึง 40% ส่วน “ตราสารหนี้” กำลังลำบากเพราะอยู่ในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น ทำให้การถือครองตราสารหนี้อายุยาวมีโอกาสขาดทุนจากราคาซื้อขาย จึงน่าจะเป็นเหตุผลให้มหาเศรษฐีลงทุนเพิ่มพียง 6% เช่นเดียวกับ “ทองคำ” ซึ่งมีมหาเศรษฐีลงทุนเพิ่มเพียง 15% เท่านั้น และหันไปถือ “เงินสด” มากขึ้น เฉลี่ยทั้งโลกอยู่ที่ 29%

ในส่วนของ “ของสะสม” ไม่ว่าจะเป็น ชิ้นงานศิลปะ รถ ไวน์ และอื่นๆ ยังได้รับความนิยมเช่นเดิม ซึ่งในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา มหาเศรษฐีในทวีปออสเตรเลียมีการลงทุนเพิ่มขึ้นถึง 53% และเฉลี่ยทั้งโลกอยู่ที่ 29% แต่เกือบครึ่งหนึ่งของมหาเศรษฐีในปัจจุบัน นอกจากจะสะสมด้วยความชื่นชอบส่วนตัวแล้ว ยังนับให้ของสะสมเป็นการลงทุนรูปแบบหนึ่ง โดยให้เหตุผลว่า นอกจากจะสุขใจที่ได้เป็นเจ้าของแล้ว กำไรที่ได้ยังน่าชื่นใจอีกด้วย โดยเฉพาะชิ้นงานศิลปะ ไวน์ และนาฬิกาที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในปี 2560 เมื่อเทียบกับการสะสมประเภทอื่นๆ

นอกจากนี้ สินทรัพย์ประเภทหนึ่งที่ไม่มีการพูดถึงในรายงานของปีก่อนหน้า นั่นคือ Cryptocurrency ซึ่งในปีที่ผ่านมาราคา Cryptocurrency บวกขึ้นหลายเท่าตัว พบว่ามหาเศรษฐีทั่วโลกมีสัดส่วนการลงทุนใน “Cryptocurrency“ เพิ่มขึ้นถึง 16% ทวีปที่มีการลงทุนเพิ่มมากที่สุดคือ ละตินอเมริกา 33% รองมาเป็นรัสเซียและเครือรัฐเอกราช มีการลงทุนเพิ่ม 27% และแอฟริกา 24%


ที่มา   ::  positioningmag.com




บริษัทที่มีรายได้มากกว่า GDP ประเทศตัวเอง

 บริษัทที่มีรายได้มากกว่า GDP ประเทศตัวเอง



บริษัทที่มีรายได้มากกว่า GDP ประเทศตัวเอง /โดย ลงทุนแมน
ลิกเตนสไตน์ ประเทศเล็กๆ ที่ร่ำรวยเป็นอันดับต้นๆ ของโลก
ประเทศนี้ตั้งอยู่ใจกลางทวีปยุโรป กลางเทือกเขาแอลป์ ไม่มีทางออกทะเล
ถูกล้อมรอบไปด้วยสวิตเซอร์แลนด์ และออสเตรีย
ซึ่งทั้งสองประเทศนี้ก็เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกทะเลเช่นเดียวกัน
ลิกเตนสไตน์ มีพื้นที่เพียง 161 ตารางกิโลเมตร และมีประชากร 35,000 คน เทียบเท่ากับอำเภอเล็กๆ ของไทย
ถึงแม้จะเป็นประเทศเล็กๆ แต่ลิกเตนสไตน์ก็ส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมไปทั่วโลก
โดยหนึ่งในบริษัทอุตสาหกรรมที่สำคัญของประเทศ คือ บริษัท Hilti
รู้หรือไม่ว่า
ในปี 2019 บริษัท Hilti มีรายได้มากกว่า GDP ของประเทศตัวเอง
บริษัท Hilti ทำอะไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

ก่อนอื่น มาทำความรู้จักประเทศลิกเตนสไตน์กันสักนิด
ราชรัฐลิกเตนสไตน์ มีเมืองหลวงชื่อกรุงวาดุซ
เป็นหนึ่งในประเทศที่ใช้ภาษาเยอรมันเป็นภาษาราชการ
และจัดเป็นราชรัฐ ซึ่งใช้เรียกเขตการปกครองขนาดเล็ก ที่มีประมุขเป็นเจ้าชาย
ประเทศนี้ก่อตั้งมาตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1731
เกิดจากการรวมมณฑลเล็กๆ ชื่อวาดุซ และเชลเลนเบิร์กของตระกูลขุนนางชาวออสเตรีย
ประมุขของลิกเตนสไตน์จึงมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับราชวงศ์ออสเตรีย
จนเมื่อราชวงศ์ออสเตรียล่มสลายหลังสงครามโลกครั้งที่ 1
ลิกเตนสไตน์จึงหันมาใกล้ชิดกับสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อนบ้านทางตะวันตกซึ่งเป็นประเทศเป็นกลาง
ด้วยความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกัน ทำให้ลิกเตนสไตน์ใช้สกุลเงินฟรังก์สวิสเช่นเดียวกับสวิตเซอร์แลนด์
และชาวลิกเตนสไตน์จึงนิยมศึกษาเล่าเรียนระดับมหาวิทยาลัยในประเทศสวิตเซอร์แลนด์
รวมไปถึงประเทศใหญ่ใกล้เคียงอย่างเยอรมนี
แต่เดิมลิกเตนสไตน์เป็นประเทศเกษตรกรรม
พื้นที่เกษตรที่มีอยู่น้อยนิดถูกใช้ในการปลูกองุ่นเพื่อผลิตไวน์
จุดเปลี่ยนสำคัญมาสู่ภาคอุตสาหกรรมคือช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
เมื่อ Martin Hilti วิศวกรเครื่องกล ผู้จบการศึกษาจาก Wismar Engineering College
ในเยอรมนี ได้ชักชวนพี่ชาย Eugen Hilti มาก่อตั้งโรงงานผลิตอุปกรณ์ก่อสร้าง
ที่เมืองชานน์ ใกล้กับกรุงวาดุซ ในปี ค.ศ. 1941
และนี่คือจุดเริ่มต้นของบริษัท Hilti
ต่อมาเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง ในปี ค.ศ. 1945
หลายประเทศในยุโรป ต่างฟื้นฟูประเทศจากความเสียหายในสงครามโลกครั้งที่ 2
อาคารบ้านเรือน โรงงานหลายแห่ง ถูกสร้างขึ้นมาอีกครั้ง
แต่ในเวลานั้น บริษัทผลิตอุปกรณ์ก่อสร้างหลายแห่งในยุโรปก็ถูกทำลายลงเช่นเดียวกัน
ลิกเตนสไตน์เป็นประเทศเป็นกลาง เพราะอยู่ข้างสวิตเซอร์แลนด์ จึงไม่ถูกทำลายเสียหาย
โรงงานของ Hilti ยังคงอยู่ครบ
ซึ่งนี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ความต้องการอุปกรณ์ก่อสร้างของ Hilti เริ่มแพร่หลายไปทั่วยุโรป
แต่ไม่ใช่แค่ความโชคดีเพียงอย่างเดียว..
ความเชี่ยวชาญด้านเครื่องมือเครื่องใช้ ทำให้ Hilti ค่อยๆ พัฒนาอุปกรณ์ก่อสร้างใหม่ๆ
หนึ่งในนั้นคือ เครื่องยิงตะปู (Powder-actuated tool) รุ่น DX 100 ซึ่งออกวางจำหน่ายในปี ค.ศ. 1957 และได้รับความนิยมไปทั่วยุโรปในเวลาไม่นาน
ต่อมาในปี ค.ศ. 1967 สินค้าที่ทำให้ Hilti ดังไปทั่วโลก
คือ สว่านไฟฟ้า รุ่น TE 17 (Electro-pneumatic hammer drill)
ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในขณะนั้น
และ Hilti ยังเป็นผู้ริเริ่มสร้างระบบติดตั้งพุกคอนกรีตขึ้นเป็นครั้งแรก
ในปี ค.ศ. 1973 Hilti ได้สร้างศูนย์พัฒนาชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่ทำด้วยเหล็ก
ในมิวนิก ประเทศเยอรมนี เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการเจาะ การยึดติด
และระบบพุกอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อช่วยให้งานก่อสร้างมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น
ในปัจจุบัน Hilti เป็นผู้เชี่ยวชาญในการจำหน่ายอุปกรณ์ก่อสร้าง
ทั้งอุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์การวัดและสแกน ระบบรางยึด ระบบพุก
ระบบป้องกันไฟและควัน เคมีภัณฑ์สำหรับงานก่อสร้าง
และยังคงให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาอุปกรณ์ก่อสร้างใหม่ๆ
ด้วยความที่ลิกเตนสไตน์เป็นประเทศเล็ก
Hilti จำเป็นต้องขยายโรงงานผลิตอุปกรณ์ไปยังต่างประเทศ
ทั้งออสเตรีย เยอรมนี เม็กซิโก ฮังการี จีน
และมีสำนักงานตั้งอยู่ใน 120 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย
แต่ยังมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองชานน์ ลิกเตนสไตน์เช่นเดิม
อย่างไรก็ตาม รายได้ของโรงงานที่ตั้งอยู่ในแต่ละประเทศ
จึงถูกรวมเข้ากับ GDP ของประเทศนั้นๆ แต่ไม่ได้ถูกรวมเข้ากับ GDP ของประเทศลิกเตนสไตน์
ทำให้ในปี 2019 บริษัท Hilti มีรายได้ทั่วโลก 195,000 ล้านบาท
ซึ่งมากกว่า GDP ของประเทศลิกเตนสไตน์ที่ประมาณ 192,000 ล้านบาท
และมีกำไร 19,503 ล้านบาท
นอกจากรายได้แล้ว บริษัท Hilti ยังมีจำนวนพนักงานทั่วโลกถึง 24,000 คน
ซึ่งจำนวนนี้ก็มากกว่าวัยแรงงานของลิกเตนสไตน์เช่นเดียวกัน
ทั้งรายได้ และจำนวนพนักงาน เป็นข้อพิสูจน์ได้เป็นอย่างดี
ว่าบริษัทที่ใหญ่โต มีกิจการอยู่ทั่วโลก ก็สามารถเติบโตจากประเทศเล็กๆ
ที่มีทรัพยากรน้อยมากอย่างลิกเตนสไตน์ได้
สิ่งสำคัญที่สุด ก็คือ
ความเชี่ยวชาญในตัวสินค้า และการพัฒนาต่อยอดคุณภาพของสินค้าอยู่เสมอ
ประเทศไทยของเรา มีพื้นที่ มีทรัพยากรมากกว่าลิกเตนสไตน์หลายพันเท่า
ลงทุนแมนก็หวังว่า
ในสักวันหนึ่ง บริษัทของคนไทย จะขยายกิจการไปทั่วโลก จนมีรายได้มากกว่า GDP ของประเทศตัวเอง เหมือนอย่างบริษัทนี้..


ที่มา  ::  Website - longtunman.com



หนังสือเดินทางลิกเตนสไตน์ - Liechtenstein passport

 

หนังสือเดินทางลิกเตนสไตน์ - Liechtenstein passport



ลิกเตนสไตน์ หนังสือเดินทาง จะออกให้กับคนชาติของ ลิกเตนสไตน์ เพื่อวัตถุประสงค์ในการเดินทางระหว่างประเทศ นอกเหนือจากการใช้เป็นหลักฐานยืนยันการเป็นพลเมืองของลิกเตนสไตน์แล้วยังอำนวยความสะดวกในกระบวนการขอความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่กงสุลลิกเตนสไตน์ ต่างประเทศ (หรือ ภารกิจของสวิตเซอร์แลนด์ ในกรณีที่ไม่มีตัวแทนประเทศลิกเตนสไตน์).


หนังสือเดินทางพร้อมกับ บัตรประจำตัวประชาชนลิกเตนสไตน์ อนุญาตให้ใช้ เสรีภาพในการเคลื่อนไหว ในรัฐใดของ EFTA, EEA และ ประเทศอังกฤษ. เนื่องจากลิกเตนสไตน์เป็นประเทศสมาชิกของ EFTAและโดยอาศัยอำนาจของมันยังเป็นสมาชิกของ เขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA) และเป็นส่วนหนึ่งของ เขตเชงเก้น.


หนังสือเดินทางของลิกเตนสไตน์เป็นสีน้ำเงินพร้อมกับ ตราแผ่นดินของลิกเตนสไตน์ ประดับอยู่ตรงกลาง คำว่า "FÜRSTENTUM LIECHTENSTEIN" ถูกจารึกไว้เหนือแขนเสื้อโดยมี "REISEPASS" และเครื่องหมายสากล หนังสือเดินทางไบโอเมตริกซ์ สัญลักษณ์ด้านล่าง


ผลของการเป็นพลเมืองของลิกเตนสไตน์

พลเมืองของลิกเตนสไตน์ได้รับอนุญาตให้อาศัยอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์ นอกจากนี้ในฐานะสมาชิกของไฟล์ เขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA) พลเมืองของลิกเตนสไตน์ได้รับอนุญาตให้พำนักในรัฐสมาชิก EEA

พลเมืองของประเทศสมาชิก EEA ซึ่งประกอบด้วย สหภาพยุโรป และสามในสี่ สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป รัฐ (ไอซ์แลนด์ลิกเตนสไตน์และ นอร์เวย์) มีอิสระในการเดินทางและทำงานในประเทศ EEA โดยไม่ต้องมี วีซ่าแม้ว่าการจัดการชั่วคราว อาจ จำกัด สิทธิของพลเมืองของประเทศสมาชิกใหม่ในการทำงานในประเทศอื่น


ข้อกำหนดของวีซ่า

ข้อกำหนดในการขอวีซ่าสำหรับพลเมืองลิกเตนสไตน์


ณ เดือนมีนาคม 2020 พลเมืองลิกเตนสไตน์ปลอดวีซ่าหรือขอวีซ่าเมื่อเดินทางมาถึง 178 ประเทศและดินแดนโดยจัดอันดับ หนังสือเดินทางลิกเตนสไตน์ อันดับที่ 13 ในแง่ของเสรีภาพในการเดินทางโดยรวมและต่ำสุดของ EFTA รัฐสมาชิกตาม ดัชนีหนังสือเดินทางของ Henley.


ในปี 2560 สัญชาติลิกเตนสไตน์อยู่ในอันดับที่สิบสี่ ดัชนีสัญชาติ (QNI) ดัชนีนี้แตกต่างจาก ดัชนีข้อ จำกัด ของวีซ่าซึ่งมุ่งเน้นไปที่ปัจจัยภายนอกรวมถึงเสรีภาพในการเดินทาง นอกจากนี้ QNI ยังพิจารณาถึงเสรีภาพในการเดินทางด้วยปัจจัยภายในเช่นสันติภาพและเสถียรภาพความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและการพัฒนามนุษย์ด้วย 


ในฐานะที่เป็นประเทศสมาชิกของ สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (EFTA) พลเมืองลิกเตนสไตน์มีเสรีภาพในการเคลื่อนไหวเพื่ออาศัยและทำงานในประเทศ EFTA อื่น ๆ ตามอนุสัญญา EFTA  ยิ่งไปกว่านั้นโดยอาศัยการเป็นสมาชิกของลิกเตนสไตน์ของ เขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA) พลเมืองลิกเตนสไตน์ยังมีเสรีภาพในการเคลื่อนไหวภายในรัฐสมาชิก EEA ทั้งหมดรวมทั้งสหราชอาณาจักร คำสั่งสิทธิพลเมือง  กำหนดสิทธิในการเคลื่อนย้ายอย่างเสรีสำหรับพลเมืองของ EEA และพลเมืองของ EFTA และ EU ทั้งหมดไม่เพียงได้รับการยกเว้นวีซ่าเท่านั้น แต่ยังมีสิทธิตามกฎหมายในการเข้าและอาศัยอยู่ในประเทศของกันและกัน



  1.  "Council of the European Union - PRADO - LIE-AO-02001"www.consilium.europa.eu.
  2. ^ Preis und Gültigkeit เก็บถาวร 2013-12-24 ที่ เครื่อง Wayback
  3. ^ “ กระทรวงการต่างประเทศยุติธรรมและวัฒนธรรม”www.regierung.li. ดึงข้อมูลแล้ว 2020-10-25.
  4. ^ "ภาพรวมโดยย่อของอนุสัญญา EFTA". ดึงข้อมูลแล้ว 29 พฤศจิกายน 2017.
  5. ^ "การจัดอันดับโลก - ดัชนีหนังสือเดินทาง 2019" (ไฟล์ PDF). Henley & Partners. ดึงข้อมูลแล้ว 8 มกราคม 2019.
  6. ^ “ 41 ชาติที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุด”www.businessinsider.de. 2016-02-06. ดึงข้อมูลแล้ว 2018-09-10.
  7. ^ "ภาพรวมโดยย่อของอนุสัญญา EFTA". ดึงข้อมูลแล้ว 29 พฤศจิกายน 2017.
  8. ^ "EUR-Lex - 32004L0038R (01) - EN - EUR-Lex"Eur-lex.europa.eu. ดึงข้อมูลแล้ว 25 พฤศจิกายน 2017.


แหล่งที่มา


หนังสือเดินทางลิกเตนสไตน์ (vvikipedla.com)



ข้อกำหนดในการขอวีซ่าสำหรับพลเมืองลิกเตนสไตน์ - Visa requirements for Liechtenstein citizens

 

ข้อกำหนดในการขอวีซ่าสำหรับพลเมืองลิกเตนสไตน์ - Visa requirements for Liechtenstein citizens



ข้อกำหนดในการขอวีซ่าสำหรับพลเมืองลิกเตนสไตน์ เป็นข้อ จำกัด ในการเข้าบริหารโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐอื่น ๆ ที่กำหนดไว้สำหรับพลเมืองของ ลิกเตนสไตน์. ณ วันที่ 2 กรกฎาคม 2019 พลเมืองลิกเตนสไตน์ปลอดวีซ่าหรือขอวีซ่าเมื่อเดินทางมาถึง 177 ประเทศและดินแดนโดยจัดอันดับ หนังสือเดินทางลิกเตนสไตน์ อันดับที่ 12 ในแง่ของเสรีภาพในการเดินทางโดยรวมและต่ำสุดของ EFTA รัฐสมาชิกตาม ดัชนีหนังสือเดินทางของ Henley.[1]

ในฐานะที่เป็นประเทศสมาชิกของ สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (EFTA) พลเมืองลิกเตนสไตน์มีเสรีภาพในการเคลื่อนไหวเพื่ออาศัยและทำงานในประเทศ EFTA อื่น ๆ ตามอนุสัญญา EFTA[2] ยิ่งไปกว่านั้นโดยอาศัยการเป็นสมาชิกของลิกเตนสไตน์ของ เขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA) พลเมืองลิกเตนสไตน์ยังได้รับเสรีภาพในการเคลื่อนไหวภายในรัฐสมาชิก EEA ทั้งหมดรวมทั้งสหราชอาณาจักร คำสั่งสิทธิพลเมือง[3] กำหนดสิทธิในการเคลื่อนย้ายอย่างเสรีสำหรับพลเมืองของ EEA และพลเมืองของ EFTA และ EU ทั้งหมดไม่เพียงได้รับการยกเว้นวีซ่าเท่านั้น แต่ยังมีสิทธิตามกฎหมายในการเข้าและอาศัยอยู่ในประเทศของกันและกัน

ในการเดินทางไปยังประเทศอื่นพลเมืองลิกเตนสไตน์ต้องการไฟล์ หนังสือเดินทางยกเว้นการเดินทางไปทั้งหมด สหภาพยุโรป รัฐสมาชิกทั้งหมด EFTA รัฐสมาชิก หมู่เกาะแชนเนลแอลเบเนียอันดอร์ราบอสเนียและเฮอร์เซโกโมนาโกมอนเตเนโกรมาซิโดเนียเหนือซานมาริโนเซอร์เบียไก่งวง[4] และ เมืองวาติกัน ที่ไหน บัตรประจำตัวประชาชนลิกเตนสไตน์ ถูกต้อง




แผนผังความต้องการวีซ่า

ข้อกำหนดในการขอวีซ่าสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางลิกเตนสไตน์ปกติ

  ลิกเตนสไตน์
  อิสระในการเคลื่อนไหว
  ไม่ต้องใช้วีซ่า / ESTA / eTA / eVisitor
  วีซ่าเมื่อเดินทางมาถึง
  eVisa
  สามารถขอวีซ่าได้ทางออนไลน์หรือเมื่อเดินทางมาถึง
  ต้องขอวีซ่าล่วงหน้า



ข้อกำหนดของวีซ่า

ประเทศข้อกำหนดวีซ่าอนุญาตให้เข้าพักหมายเหตุ (ไม่รวมค่าธรรมเนียมการออกเดินทาง)
 อัฟกานิสถานต้องใช้วีซ่า[5]
 แอลเบเนียไม่ต้องใช้วีซ่า[6]90 วัน
 แอลจีเรียต้องใช้วีซ่า[7]
 อันดอร์ราไม่ต้องใช้วีซ่า[8]
 แองโกลาต้องใช้วีซ่า[9]
 แอนติกาและบาร์บูดาไม่ต้องใช้วีซ่า[10]3 เดือน
 อาร์เจนตินาไม่ต้องใช้วีซ่า[11]90 วัน
 อาร์เมเนียไม่ต้องใช้วีซ่า[12]180 วัน
 ออสเตรเลียeVisitor[13]90 วัน
  • 90 วันในการเยี่ยมแต่ละครั้งในระยะเวลา 12 เดือนหากได้รับอนุญาต
 ออสเตรียไม่ต้องใช้วีซ่า[14]
 อาเซอร์ไบจานeVisa[15]30 วัน[16]
 บาฮามาสไม่ต้องใช้วีซ่า[17]3 เดือน
 บาห์เรนวีซ่าเมื่อเดินทางมาถึง[18]14 วัน
 บังกลาเทศeVisa / Visa เมื่อเดินทางมาถึง[19]30 วัน
 บาร์เบโดสไม่ต้องใช้วีซ่า[20]3 เดือน
 เบลารุสไม่ต้องใช้วีซ่า[21]30 วัน
 เบลเยี่ยมไม่ต้องใช้วีซ่า[22]
 เบลีซไม่ต้องใช้วีซ่า[23]1 เดือน
 เบนินeVisa / Visa เมื่อเดินทางมาถึง[24][25]30 วัน / 8 วัน
  • ต้องมีใบรับรองการฉีดวัคซีนสากล
 ภูฏานต้องใช้วีซ่า[26]
 โบลิเวียไม่ต้องใช้วีซ่า[27]90 วัน
 บอสเนียและเฮอร์เซโกไม่ต้องใช้วีซ่า[28]90 วัน
 บอตสวานาไม่ต้องใช้วีซ่า[29]90 วัน
 บราซิลไม่ต้องใช้วีซ่า[30]90 วัน
 บรูไนไม่ต้องใช้วีซ่า[31]90 วัน
 บัลแกเรียไม่ต้องใช้วีซ่า[32]
 บูร์กินาฟาโซวีซ่าเมื่อเดินทางมาถึง[33]1 เดือน
 บุรุนดีต้องใช้วีซ่า[34]
 กัมพูชาeVisa / Visa เมื่อเดินทางมาถึง[35]30 วัน
  • วีซ่าสามารถหาได้ทางออนไลน์[36]
 แคเมอรูนต้องใช้วีซ่า[37]
 แคนาดาไม่ต้องใช้วีซ่า[38]6 เดือน
  • eTA จำเป็นหากเดินทางมาทางอากาศ[39]
 เคปเวิร์ดไม่ต้องใช้วีซ่า[40]30 วัน
 สาธารณรัฐแอฟริกากลางต้องใช้วีซ่า[41]
 ชาดต้องใช้วีซ่า[42]
 ชิลีไม่ต้องใช้วีซ่า[43]90 วัน
 ประเทศจีนต้องใช้วีซ่า[44]
 โคลอมเบียไม่ต้องใช้วีซ่า[45]180 วัน
  • 90 วัน - ขยายได้สูงสุด 180 วันอยู่ภายในระยะเวลาหนึ่งปี
 คอโมโรสวีซ่าเมื่อเดินทางมาถึง[46]
 สาธารณรัฐคองโกต้องใช้วีซ่า[47]
 สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกต้องใช้วีซ่า[48]
 คอสตาริกาไม่ต้องใช้วีซ่า[49]90 วัน
 โกตดิวัวร์eVisa[50]3 เดือน
 โครเอเชียไม่ต้องใช้วีซ่า[51]
 คิวบาต้องใช้บัตรนักท่องเที่ยว[52]30 วัน
 ไซปรัสไม่ต้องใช้วีซ่า[53]
 สาธารณรัฐเช็กไม่ต้องใช้วีซ่า[54]
 เดนมาร์กไม่ต้องใช้วีซ่า[55]
 จิบูตีeVisa[56]31 วัน
 โดมินิกาไม่ต้องใช้วีซ่า[57]21 วัน
 สาธารณรัฐโดมินิกันไม่ต้องใช้วีซ่า[58]90 วัน
 เอกวาดอร์ไม่ต้องใช้วีซ่า[59]90 วัน
 อียิปต์วีซ่าเมื่อเดินทางมาถึง[60]30 วัน
 เอลซัลวาดอร์ไม่ต้องใช้วีซ่า[61]3 เดือน
 อิเควทอเรียลกินีต้องใช้วีซ่า[62]
 เอริเทรียต้องใช้วีซ่า[63]
 เอสโตเนียไม่ต้องใช้วีซ่า[64]
 เอวาทินีต้องใช้วีซ่า[65]
 เอธิโอเปียeVisa[66]นานถึง 90 วัน
 ฟิจิไม่ต้องใช้วีซ่า[67]4 เดือน
 ฟินแลนด์ไม่ต้องใช้วีซ่า[68]
 ฝรั่งเศสไม่ต้องใช้วีซ่า[69]
 กาบองeVisa[70]
 แกมเบียไม่ต้องใช้วีซ่า[71]90 วัน
 จอร์เจียไม่ต้องใช้วีซ่า[72]1 ปี
 เยอรมนีไม่ต้องใช้วีซ่า[73]
 กานาต้องใช้วีซ่า[74]
 กรีซไม่ต้องใช้วีซ่า[75]
 เกรนาดาไม่ต้องใช้วีซ่า[76]3 เดือน
 กัวเตมาลาไม่ต้องใช้วีซ่า[77]90 วัน
 กินีeVisa[78]90 วัน
 กินี - บิสเซาeVisa / Visa เมื่อเดินทางมาถึง[79]90 วัน
 กายอานาต้องใช้วีซ่า[80]
 เฮติไม่ต้องใช้วีซ่า[81]90 วัน
 ฮอนดูรัสไม่ต้องใช้วีซ่า[82]3 เดือน
 ฮังการีไม่ต้องใช้วีซ่า[83]
 ไอซ์แลนด์ไม่ต้องใช้วีซ่า[84]
 อินเดียe-Visa[85]60 วัน
  • ผู้ถือ e-Visa ต้องเดินทางมาถึงสนามบินที่กำหนด 26 แห่ง[หมายเหตุ 1] หรือท่าเรือ 3 แห่งที่กำหนด[โน้ต 2][86]
  • ชาวอินเดีย e-Tourist Visa สามารถรับได้สองครั้งในหนึ่งปีปฏิทิน
 อินโดนีเซียไม่ต้องใช้วีซ่า[87]30 วัน
  • เลือกพอร์ตของรายการ
 อิหร่านวีซ่าเมื่อเดินทางมาถึง[88]30 วัน[89]
 อิรักต้องใช้วีซ่า[90]
 ไอร์แลนด์ไม่ต้องใช้วีซ่า[91]
 อิสราเอลไม่ต้องใช้วีซ่า[92]3 เดือน
 อิตาลีไม่ต้องใช้วีซ่า[93]
 จาเมกาไม่ต้องใช้วีซ่า[94]90 วัน
 ญี่ปุ่นไม่ต้องใช้วีซ่า[95]90 วัน
 จอร์แดนวีซ่าเมื่อเดินทางมาถึง[96]
  • เป็นไปตามเงื่อนไข[97]
 คาซัคสถานไม่ต้องใช้วีซ่า[98]30 วัน[99]
 เคนยาeVisa / Visa เมื่อเดินทางมาถึง[100]3 เดือน
 คิริบาสไม่ต้องใช้วีซ่า[101]90 วัน
 เกาหลีเหนือต้องใช้วีซ่า[102]
 เกาหลีใต้ไม่ต้องใช้วีซ่า[103]90 วัน
 คูเวตeVisa / Visa เมื่อเดินทางมาถึง[104]3 เดือน
 คีร์กีซสถานไม่ต้องใช้วีซ่า[105]60 วัน
 ลาวeVisa / Visa เมื่อเดินทางมาถึง[106][107]30 วัน
  • วีซ่าเมื่อเดินทางมาถึงมีให้บริการที่สนามบินนานาชาติ หลวงพระบางปากเซสะหวันนะเขต และ เวียงจันทน์และที่ 4 บกพรมแดนสะพานมิตรภาพ[หมายเหตุ 3] และจุดผ่านแดน 13 แห่ง[หมายเหตุ 4] เช่นเดียวกับสถานีรถไฟทานาแลงในเวียงจันทน์ซึ่งเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟในจังหวัดหนองคายประเทศไทย[108] สิ่งอำนวยความสะดวกในการขอวีซ่าเมื่อเดินทางมาถึงจะค่อยๆหมดลงที่จุดผ่านแดนต่างๆตั้งแต่เดือนมกราคม 2020[109]
  • สามารถใช้ eVisa เพื่อเข้าประเทศลาวผ่านจุดเข้าดังต่อไปนี้ - สนามบินนานาชาติวัตไตและสะพานมิตรภาพไทย - ลาวแห่งแรก
  • จุดเข้า Lalai, Lantui, Meuang mom, Pakxan และ Phoudou เปิดให้เฉพาะผู้ถือวีซ่าเท่านั้น
  • วีซ่าเมื่อเดินทางมาถึงสามารถขยายได้ถึง 60 วัน
 ลัตเวียไม่ต้องใช้วีซ่า[110]
 เลบานอนวีซ่าเมื่อเดินทางมาถึง[111]1 เดือน
  • วีซ่าสามารถขยายเพิ่มได้อีก 2 เดือนเมื่อเดินทางมาถึง
  • ได้รับฟรีที่ สนามบินนานาชาติเบรุต หรือเมืองท่าอื่น ๆ หากไม่มีวีซ่าหรือตราประทับของอิสราเอลถือหมายเลขโทรศัพท์ที่อยู่ในเลบานอนและตั๋วไปกลับหรือเที่ยววงกลมแบบไม่สามารถคืนเงินได้
 เลโซโทeVisa[112][113]
 ไลบีเรียต้องใช้วีซ่า[114]
 ลิเบียต้องใช้วีซ่า[115]
 ลิทัวเนียไม่ต้องใช้วีซ่า[116]
 ลักเซมเบิร์กไม่ต้องใช้วีซ่า[117]
 มาดากัสการ์eVisa / Visa เมื่อเดินทางมาถึง[118]90 วัน
 มาลาวีeVisa / Visa เมื่อเดินทางมาถึง[119][120]90 วัน
 มาเลเซียไม่ต้องใช้วีซ่า[121]3 เดือน
 มัลดีฟส์วีซ่าเมื่อเดินทางมาถึง[122]30 วัน
 มาลีต้องใช้วีซ่า[123]
 มอลตาไม่ต้องใช้วีซ่า[124]
 หมู่เกาะมาร์แชลล์ต้องใช้วีซ่า[125]
 มอริเตเนียวีซ่าเมื่อเดินทางมาถึง[126]
 มอริเชียสไม่ต้องใช้วีซ่า[127]90 วัน
 เม็กซิโกไม่ต้องใช้วีซ่า[128]180 วัน
 ไมโครนีเซียไม่ต้องใช้วีซ่า[129]90 วัน
  • 90 วันภายในระยะเวลา 180 วัน
 มอลโดวาไม่ต้องใช้วีซ่า[130]90 วัน
  • 90 วันภายในระยะเวลา 180 วัน
 โมนาโกไม่ต้องใช้วีซ่า[131]
 มองโกเลียต้องใช้วีซ่า[132]
 มอนเตเนโกรไม่ต้องใช้วีซ่า[133]90 วัน
 โมร็อกโกไม่ต้องใช้วีซ่า[134]30 วัน
 โมซัมบิกวีซ่าเมื่อเดินทางมาถึง[135]30 วัน
 พม่าต้องใช้วีซ่า[136]
 นามิเบียไม่ต้องใช้วีซ่า[137]3 เดือน
  • 3 เดือนภายในปีปฏิทิน
 นาอูรูต้องใช้วีซ่า[138]
   เนปาลวีซ่าเมื่อเดินทางมาถึง[139]90 วัน
 เนเธอร์แลนด์ไม่ต้องใช้วีซ่า[140]
 นิวซีแลนด์การท่องเที่ยวอิเล็กทรอนิกส์[141]90 วัน
  • การอนุรักษ์ผู้เข้าชมระหว่างประเทศและการจัดเก็บภาษีการท่องเที่ยวจะต้องได้รับจาก Electronic Travel Authority[142]
 นิการากัวไม่ต้องใช้วีซ่า[143]90 วัน
 ไนเจอร์ต้องใช้วีซ่า[144]
 ไนจีเรียต้องใช้วีซ่า[145]
 มาซิโดเนียเหนือไม่ต้องใช้วีซ่า[146]90 วัน
 นอร์เวย์ไม่ต้องใช้วีซ่า[147]
 โอมานeVisa[148]30 วัน
 ปากีสถานวีซ่าออนไลน์[149]
 ปาเลาวีซ่าเมื่อเดินทางมาถึง[150]30 วัน
 ปานามาไม่ต้องใช้วีซ่า[151]180 วัน
 ปาปัวนิวกินีeVisa / วีซ่าฟรีเมื่อเดินทางมาถึง[152]60 วัน
 ประเทศปารากวัยไม่ต้องใช้วีซ่า[153]90 วัน
 เปรูไม่ต้องใช้วีซ่า[154]90 วัน[155]
 ฟิลิปปินส์ไม่ต้องใช้วีซ่า[156]30 วัน
 โปแลนด์ไม่ต้องใช้วีซ่า[157]
 โปรตุเกสไม่ต้องใช้วีซ่า[158]
 กาตาร์ไม่ต้องใช้วีซ่า[159]90 วัน
 โรมาเนียไม่ต้องใช้วีซ่า[160]
 รัสเซียeVisa[161]16 วัน
  • eVisa จะวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564[162]
 รวันดาeVisa / Visa เมื่อเดินทางมาถึง[163]
 เซนต์คิตส์และเนวิสไม่ต้องใช้วีซ่า[164]3 เดือน
 เซนต์ลูเซียไม่ต้องใช้วีซ่า[165]6 สัปดาห์
 เซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ไม่ต้องใช้วีซ่า[166]1 เดือน
 ซามัวใบอนุญาตเมื่อเดินทางมาถึง[167]60 วัน
 ซานมาริโนไม่ต้องใช้วีซ่า[168]
 เซาตูเมและปรินซิปีไม่ต้องใช้วีซ่า[169]15 วัน[170][171]
 ซาอุดิอาราเบียeVisa / Visa เมื่อเดินทางมาถึง[172][173]90 วัน
 เซเนกัลวีซ่าเมื่อเดินทางมาถึง[174]90 วัน
 เซอร์เบียไม่ต้องใช้วีซ่า[175]90 วัน
 เซเชลส์ไม่ต้องใช้วีซ่า[176]3 เดือน
 เซียร์ราลีโอนต้องใช้วีซ่า[177]
 สิงคโปร์ไม่ต้องใช้วีซ่า[178]30 วัน
 สโลวีเนียไม่ต้องใช้วีซ่า[179]
 สโลวาเกียไม่ต้องใช้วีซ่า[180]
 หมู่เกาะโซโลมอนใบอนุญาตผู้เข้าชมฟรีเมื่อเดินทางมาถึง[181]3 เดือน
 โซมาเลียวีซ่าเมื่อเดินทางมาถึง[182]
 แอฟริกาใต้ไม่ต้องใช้วีซ่า[183]90 วัน
 ซูดานใต้วีซ่าอิเล็กทรอนิกส์[184]
  • ได้ทางออนไลน์[185]
  • ต้องแสดงเอกสารอนุมัติวีซ่าเมื่อเดินทาง[186]
 สเปนไม่ต้องใช้วีซ่า[187]
 ศรีลังกาการอนุมัติการเดินทางทางอิเล็กทรอนิกส์[188]30 วัน
 ซูดานต้องใช้วีซ่า[189]
 ซูรินาเมบัตร E-tourist[190]90 วัน
  • นอกจากนี้ยังมี eVisa หลายรายการ[191]
 สวีเดนไม่ต้องใช้วีซ่า[192]
  สวิตเซอร์แลนด์ไม่ต้องใช้วีซ่า[193]
 ซีเรียต้องใช้วีซ่า[194]
 ทาจิกิสถานวีซ่าเมื่อเดินทางมาถึง[195]45 วัน
  • วีซ่ายังมีให้บริการทางออนไลน์
  • ผู้ถือวีซ่าสามารถเข้าผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมด[196]
 แทนซาเนียeVisa / Visa เมื่อเดินทางมาถึง[197][198]3 เดือน
 ประเทศไทยไม่ต้องใช้วีซ่า[199]30 วัน
  • สูงสุดสองครั้งต่อปีหากไม่ได้มาทางอากาศ
 ติมอร์ - เลสเตวีซ่าเมื่อเดินทางมาถึง[200]30 วัน
 ไปวีซ่าเมื่อเดินทางมาถึง[201]7 วัน
 ตองกาไม่ต้องใช้วีซ่า[202]90 วัน
  • 90 วันภายในระยะเวลา 180 วัน
 ตรินิแดดและโตเบโกไม่ต้องใช้วีซ่า[203]90 วัน
  • 90 วันภายในระยะเวลา 180 วัน
 ตูนิเซียไม่ต้องใช้วีซ่า[204]3 เดือน
 ไก่งวงไม่ต้องใช้วีซ่า[205]90 วัน[206]
 เติร์กเมนิสถานต้องใช้วีซ่า[208]
 ตูวาลูไม่ต้องใช้วีซ่า[209]90 วัน
  • 90 วันภายในระยะเวลา 180 วัน
 ยูกันดาeVisa / Visa เมื่อเดินทางมาถึง[210]
  • สมัครออนไลน์ได้.[211]
 ยูเครนไม่ต้องใช้วีซ่า[212]90 วัน
  • 90 วันภายในระยะเวลา 180 วัน
 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ไม่ต้องใช้วีซ่า[213]90 วัน
  • 90 วันภายในระยะเวลา 180 วัน[214]
 ประเทศอังกฤษไม่ต้องใช้วีซ่า[215]
  • เสรีภาพในการเคลื่อนไหว (ในประเทศที่เป็นส่วนประกอบ)
  • บัตรประชาชน ถูกต้อง
 สหรัฐโปรแกรมยกเว้นวีซ่า[216]90 วัน
  • เมื่อเดินทางมาถึงต่างประเทศ ESTA (ใช้ได้ 2 ปีเมื่อออกให้) หากเดินทางมาทางอากาศหรือเรือสำราญ[217]
 อุรุกวัยไม่ต้องใช้วีซ่า[218]90 วัน
 อุซเบกิสถานไม่ต้องใช้วีซ่า[219]30 วัน
 วานูอาตูไม่ต้องใช้วีซ่า[220]30 วัน
  เมืองวาติกันไม่ต้องใช้วีซ่า[221]
 เวเนซุเอลาไม่ต้องใช้วีซ่า[222]90 วัน
 เวียดนามeVisa[223]30 วัน
 เยเมนต้องใช้วีซ่า[224]
 แซมเบียeVisa / Visa เมื่อเดินทางมาถึง[225]90 วัน
  • ยังมีสิทธิ์ได้รับวีซ่าสากลที่อนุญาตให้เข้าซิมบับเว
 ซิมบับเวeVisa / Visa เมื่อเดินทางมาถึง[226]3 เดือน
  • ยังมีสิทธิ์ได้รับวีซ่าสากลที่อนุญาตให้เข้าถึงแซมเบีย

ดินแดนที่ขึ้นอยู่กับขัดแย้งหรือถูก จำกัด

ข้อกำหนดวีซ่าสำหรับพลเมืองลิกเตนสไตน์สำหรับการเยี่ยมชมดินแดนต่างๆพื้นที่พิพาทประเทศที่ได้รับการยอมรับบางส่วนและเขตหวงห้าม:

เอเชีย
ผู้เยี่ยมชมข้อกำหนดวีซ่าหมายเหตุ (ไม่รวมค่าธรรมเนียมการออกเดินทาง)
 ฮ่องกงไม่ต้องใช้วีซ่า[227]90 วัน
 มาเก๊าไม่ต้องใช้วีซ่า[228]90 วัน

การคุ้มครองทางกงสุลของพลเมืองลิกเตนสไตน์ในต่างประเทศ


มีสถานทูตลิกเตนสไตน์ในออสเตรียเบลเยียมเยอรมนีสวิตเซอร์แลนด์และสหรัฐอเมริกา

ตั้งแต่ปีพ. ศ. 2462 สวิตเซอร์แลนด์ได้เป็นตัวแทนของลิกเตนสไตน์ในประเทศเหล่านั้นโดยที่ลิกเตนสไตน์เองไม่ได้ดำรงตำแหน่งทางกงสุล
ดูสิ่งนี้ด้วย รายชื่อคณะทูตของลิกเตนสไตน์.

ข้อจำกัด การไม่ขอวีซ่า


ที่มา  ::  ข้อกำหนดในการขอวีซ่าสำหรับพลเมืองลิกเตนสไตน์ (vvikipedla.com)



การทำ SEO คืออะไร

    การทำ SEO คืออะไร การทำ SEO คืออะไร เรียนรู้เทคนิคง่ายๆ ทำด้วยตัวเอง ไม่ต้องเสียตังค์ "SEO คือ การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับการค้...