เที่ยวลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein) เยือนเมืองหลวงวาดุซ อาณาจักรแห่งแสตมป์ชื่อดัง ดินแดนระหว่างสวิตเซอร์แลนด์และออสเตรีย
การเดินทางมายังประเทศลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein)
สนามบินใกล้เคียง
- ท่าอากาศยานซูริค (Zurich Airport) สวิตเซอร์แลนด์: 115 กิโลเมตร
- ท่าอากาศยานซังคท์กัลเลิน-อัลเทินไรน์ ( Gallen-Altenrhein Airport) สวิตเซอร์แลนด์: 50 กิโลเมตร
- ท่าอากาศยานเฟรดิกชาเฟน (Friedrichshafen) เยอรมนี: 85 กิโลเมตร
- ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินข้างต้นประมาณ 1 ชั่วโมงมายังประเทศลิกเตนสไตน์
เดินทางด้วยรถไฟ
- จากเมืองเซนต์กาลเลิน (Sargans, Buchs) สวิตเซอร์แลนด์
- เมืองเฟลด์เคียร์ช (Feldkirch) ออสเตรีย หรือเมืองอินส์บรุค (Innsbruck) ออสเตรีย
- จากนั้นสามารถนั่งรถโดยสารประจำทาง (LIEmobil Bus) ไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ในลิกเตนสไตน์
- ตรวจสอบตารางเวลารถไฟได้ที่ รถไฟสวิตเซอร์แลนด์ รถไฟออสเตรีย และ รถบัสลิกเตนสไตน์
เที่ยวลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein)
เราออกเดินทางกันจากกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ชับรถยาวมาจนถึง ลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein) การตัดสินใจมาเที่ยวที่นี่เหตุผลหลักก็คืออยากเห็นบ้านเมืองเล็ก ๆ ที่มีภูมิทัศน์เป็นภูขาส่วนใหญ่ ได้เข้าชมพิพิธภัณฑ์แสตมป์ที่มีชื่อเสียง ส่งโปสการ์ดหาตัวเอง พร้อมเก็บสะสมเงินฟรังก์สวิสไว้เป็นที่ระลึก เป็นเป้าหมายเล็ก ๆ ที่เปิดโลกให้ได้รู้จักกับลิกเตนสไตน์มากขึ้นอย่างคาดไม่ถึง ที่นี่ยังเป็นประเทศสุดท้ายของทริปการขับรถเที่ยวทางไกลในยุโรปช่วงฤดูร้อน (Summer Road Trips in Europe) ก่อนที่เราจะเดินทางกลับดินแดนกังหันลม
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมงเราก็มาถึงวาดุซ (Vaduz) เมืองหลวงของลิกเตนสไตน์ ซึ่งเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่เราสามารถเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ได้ภายในเวลา 1-2 ชั่วโมง หลังจากหาที่จอดรถได้แล้วเราก็เริ่มเดินเที่ยวจากใจกลางเมืองหลวงนั้นก็คือ พิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากร (Postmuseum Vaduz) ซึ่งเป็นสถานที่จัดแสดงแสตมป์มากมาย พร้อมจุดจำหน่ายแสตมป์และโปสการ์ดสวย ๆ แอบกระซิบนิดหนึ่งค่ะว่าที่นี่เรายังสามารถขอประทับตราหนังสือเดินทางลิกเตนสไตน์ได้ด้วยนะคะ เอาไว้เป็นหลักฐานที่ระลึกว่าครั้งหนึ่งเราเคยมาเยือนที่นี่
พิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากร (Postmuseum Vaduz) เที่ยวลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein)
พิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากร (Postmuseum Vaduz) ตั้งอยู่ชั้นสองของตัวอาคาร ด้านในจัดแสดงประวัติความเป็นมาของแสตมป์ ตัวอย่างแสตมป์ที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลก แท่นพิมพ์ในการผลิตแตมป์ รวมไปถึงโปสการ์ดต่าง ๆ
เราสามารถส่งโปสการ์ดหาตัวเองได้โดยซื้อกับพนักงานที่เคาน์เตอร์ เลือกแบบแสตมป์ที่ต้องการ เขียนชื่อที่อยู่ผู้รับและข้อความให้เรียบร้อย จากนั้นก็นำไปหยอดใส่ตู้ไปรษณีย์ขนาดเล็ก ใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ (ยุโรป) โปสการ์ดก็นำส่งมาถึงบ้าน หากจัดส่งในประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 2-3 อาทิตย์ นอกจากนี้เรายังสามารถขอตราประทับหนังสือเดินทางลิกเตนสไตน์ลงบนพาสปอร์ตได้อีกด้วย โดยมีค่าธรรมเนียมเพียง 3 (ยูโร) ฟรังก์สวิส
- พิกัด:พิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากร (Postmuseum Vaduz)
- เวลาทำการ: ทุกวัน เวลา 09:00 – 17:00 น.
- ค่าแสตมป์หนังสือเดินทางของลิกเตนสไตน์: 3 (ยูโร) ฟรังก์สวิส
ปราสาทวาดุซ (Vaduz Castle) เที่ยวลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein)
ปราสาทวาดุซ (Vaduz Castle) เป็นปราสาทที่พำนักของราชวงศ์แห่งลิกเตนสไตน์ ตั้งตระหง่านอยู่เหนือเมืองหลวงวาดุซประมาณ 120 เมตร เป็นสถานที่สำคัญอีกหนึ่งแห่งของของลิกเตนสไตน์และสามารถมองเห็นได้แต่ไกล ปราสาทมีต้นกำเนิดในศตวรรษที่ 12 ก่อนที่จะมีการสร้างหอคอยที่อยู่อาศัยขึ้นในปี ค. ศ. 1287 จากนั้นก็มีการกล่าวถึงเป็นครั้งแรกในปี 1322 ที่นี่ยังเคยเป็นที่ประทับแบบถาวรของเจ้าชายฟรานซ์โจเซฟที่ 2 และครอบครัว ในปี พ. ศ. 2482 อีกด้วย
ปราสาทวาดุซไม่ได้เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม แต่เป็นไปได้ที่จะชมความสวยงามของปราสาทจากด้านนอกแทน ถ้าหากเดินขึ้นไปบริเวณปราสาท เรายังสามารถมองเห็นวิวสวย ๆ ของเมืองวาดุซจากยอดเขาอีกด้วย
- พิกัด: ปราสาทวาดุซ (Vaduz Castle)
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein National Museum)
ห่างออกไปเพียง 1 นาทีจากพิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากร เราจะพบพิพิธภัณฑ์แห่งชาติลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein National Museum) ตั้งอยู่ สถานที่แห่งนี้จะพาทุกคนไปเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของลิกเตนสไตน์จากสมัยโบราณของมนุษย์ผ่านยุคปัจจุบัน รวมไปถึงด้วยชิ้นส่วนโบราณวัตถุ เครื่องแต่งกายเสื้อผ้าแบบดั้งเดิม ที่แสดงให้เห็นการใช้ชีวิตของผู้คนในสมัยก่อน ผ่านแกลเลอรี่งานศิลปะและนิทรรศการแบบชั่วคราวและถาวรได้อย่างน่าสนใจ การเข้าชมพิพิธภัณฑ์แห่งชาติลิกเตนสไตน์ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มองจากข้างนอกแล้วดูเหมือนเล็ก ๆ แต่พอได้มาเดินจริง ๆ กลับมีเรื่องราวที่น่าสนใจซ่อนอยู่เยอะเลย
- พิกัด: พิพิธภัณฑ์แห่งชาติลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein National Museum)
- เวลาทำการ: วันอังคารถึงวันอาทิตย์ เวลา 10:00 – 17:00 น.
- ราคาตั๋วเข้าชม: 10 (ยูโร) ฟรังก์สวิส
วิหารเซนต์ฟลอริน (St. Florin Cathedral) เที่ยวลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein)
วิหารเซนต์ฟลอริน (St. Florin Cathedral) หรือวิหารวาดุซเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในเมืองวาดุซ สร้างขึ้นในปี พ. ศ. 2417 ด้วยสถาปัตยกรรมนีโอโกธิค ตั้งอยู่ที่ปลายด้านหนึ่งของถนนสายหลักห่างจากพิพิธภัณฑ์แห่งชาติลิกเตนสไตน์เพียง 3 นาที ด้านนอกของวิหารมีหอคอยที่มีลักษณะเรียบง่ายและเป็นโบสถ์ที่ธรรมดามาก แต่เป็นสถานที่มีความสำคัญทางศาสนาที่สำคัญของเมืองวาดุซ
ศาลากลางเมืองวาดุซ (Vaduz City Hall) เที่ยวลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein)
เดินเล่นมาเรื่อย ๆ จากวิหารเซนต์ฟลอรินเราจะพบกับสถานที่สำคัญอีกหนึ่งแห่งของเมืองวาดุซนั้นก็คือ ศาลากลางเมืองวาดุซ (Vaduz City Hall) ตั้งอยู่บนถนนสาย Städtle ซึ่งเป็นย่านที่พักโรงแรม ร้านอาหารและคาเฟ่จำนวนมาก ที่นี่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ. ศ. 2475 ได้รับการปรับปรุงใหม่ในปี พ.ศ. 2525 ถึง พ.ศ. 2527 ด้านหน้าสามารถมองเห็นตราแผ่นดินซึ่งแกะสลักด้วยหินเหนือประตูทางเข้า
นอกเหนือจากสถานที่ดังกล่าวข้างต้นแล้ว ลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein) ยังมีสถานที่ขนาดเล็กอื่น ๆ อีก เช่น พิพิธภัณฑ์งานศิลปะสมัยใหม่และร่วมสมัยจากทั่วโลก (Kunstmuseum Liechtenstein) หอสมุดแห่งชาติลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein National Library) ศาลเมืองวาดุซ (Courthouse) ที่ทำการไปรษณีย์เมืองวาดุซ (Postfiliale Vaduz – Liechtensteinische Post AG) กระทรวงสาธารณสุขเมืองวาดุซ (Amt für Gesundheit) ซึ่งสถานที่เหล่านี้มีขนาดเล็กมากตั้งอยู่ในอาคารที่เราเดินผ่านแล้วนึกไม่ถึงว่าจะเป็นสถานที่สำคัญทางราชการของลิกเตนสไตน์
ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเราก็เดินชมรอบ ๆ ใจกลางเมืองวาดุซจนทั่ว เอาจริง ๆ เราไม่คิดว่าเมืองจะเล็กมากขนาดนี้ เล็กจนแทบทำให้เราประหลาดใจว่าในวันว่าง ๆ ของผู้คนนอกเหนือจากการทำงานแล้วพวกเขาทำอะไรกัน คำตอบนี้อาจจะเดาได้จากภูมิทัศน์ของเมืองที่อยู่บนภูเขา ซึ่งเต็มไปด้วยธรรมชาติรอบด้าน ส่วนที่เป็นบ้านเรือนของผู้คนในพื้นที่ยังมีการทำสวนองุ่นเพื่อทำไวน์อีกด้วย และยังมีพื้นที่เหมาะสำหรับการเล่นสกีในช่วงฤดูหนาว รวมไปถึงระบบการขนส่งสาธารณะและการบริการจัดการบ้านเมืองที่ทำให้ทุกอย่างดูเป็นระเบียบเรียบร้อยไปทุกด้าน สิ่งเหล่านั้นอาจสะท้อนให้เห็นถึงว่าทำไมผู้คนที่นี่ถึงมีความสุขติดอันดับโลก แม้พื้นที่จะเล็กแต่ถ้าบ้านเมืองมีการบริการจัดการที่ดีก็สามารถทำให้ผู้คนมีความสุขได้โดยไม่เกี่ยวกับขนาดของประเทศ
ก่อนเดินทางกลับเนเธอร์แลนด์เราไม่ลืมที่จะไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็มเพื่อให้ได้เงินแบงค์ฟรังก์สวิสเอาไว้สะสมเป็นที่ระลึก เป็นการปิดทริปการขับรถเที่ยวทางไกลในยุโรปช่วงฤดูร้อนจำนวน 2 อาทิตย์ที่เต็มอิ่ม ครั้งหน้าหากมีโอกาสเราคงได้ไปเยือนประเทศสวิซเซอร์แลนด์ตามความตั้งใจโดยที่อย่างน้อยตอนนี้ก็มีเงินฟรังก์สวิสเตรียมไว้แล้ว
สำหรับใครที่เดินทางมาเที่ยวประเทศสวิซเซอร์แลนด์และออสเตรียเมืองใกล้เคียง หากมีเวลาเหลือประมาณหนึ่งวัน ลองนั่งรถไฟมาเที่ยวที่ลิกเตนสไตน์สักครั้งนะคะ ที่นี่เขาเดินทางสะดวกและมีพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชมหลายแห่ง พอเข้าชมพิพิธภัณฑ์เสร็จแล้วก็สามารถไปเดินเที่ยวชมธรรมชาติรอบใจกลางเมืองได้ เป็นประเทศเล็ก ๆ ที่ไม่หวือหวาและมีความเรียบง่ายแบบไม่ต้องปรุงแต่งให้เห็นอยู่หลายมุม
การเดินทางมายังประเทศลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein)
สนามบินใกล้เคียง
- ท่าอากาศยานซูริค (Zurich Airport) สวิตเซอร์แลนด์: 115 กิโลเมตร
- ท่าอากาศยานซังคท์กัลเลิน-อัลเทินไรน์ ( Gallen-Altenrhein Airport) สวิตเซอร์แลนด์: 50 กิโลเมตร
- ท่าอากาศยานเฟรดิกชาเฟน (Friedrichshafen) เยอรมนี: 85 กิโลเมตร
- ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินข้างต้นประมาณ 1 ชั่วโมงมายังประเทศลิกเตนสไตน์
เดินทางด้วยรถไฟ
- จากเมืองเซนต์กาลเลิน (Sargans, Buchs) สวิตเซอร์แลนด์
- เมืองเฟลด์เคียร์ช (Feldkirch) ออสเตรีย หรือเมืองอินส์บรุค (Innsbruck) ออสเตรีย
- จากนั้นสามารถนั่งรถโดยสารประจำทาง (LIEmobil Bus) ไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ในลิกเตนสไตน์
- ตรวจสอบตารางเวลารถไฟได้ที่ รถไฟสวิตเซอร์แลนด์ รถไฟออสเตรีย และ รถบัสลิกเตนสไตน์
เที่ยวลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein)
เราออกเดินทางกันจากกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ชับรถยาวมาจนถึง ลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein) การตัดสินใจมาเที่ยวที่นี่เหตุผลหลักก็คืออยากเห็นบ้านเมืองเล็ก ๆ ที่มีภูมิทัศน์เป็นภูขาส่วนใหญ่ ได้เข้าชมพิพิธภัณฑ์แสตมป์ที่มีชื่อเสียง ส่งโปสการ์ดหาตัวเอง พร้อมเก็บสะสมเงินฟรังก์สวิสไว้เป็นที่ระลึก เป็นเป้าหมายเล็ก ๆ ที่เปิดโลกให้ได้รู้จักกับลิกเตนสไตน์มากขึ้นอย่างคาดไม่ถึง ที่นี่ยังเป็นประเทศสุดท้ายของทริปการขับรถเที่ยวทางไกลในยุโรปช่วงฤดูร้อน (Summer Road Trips in Europe) ก่อนที่เราจะเดินทางกลับดินแดนกังหันลม
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมงเราก็มาถึงวาดุซ (Vaduz) เมืองหลวงของลิกเตนสไตน์ ซึ่งเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่เราสามารถเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ได้ภายในเวลา 1-2 ชั่วโมง หลังจากหาที่จอดรถได้แล้วเราก็เริ่มเดินเที่ยวจากใจกลางเมืองหลวงนั้นก็คือ พิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากร (Postmuseum Vaduz) ซึ่งเป็นสถานที่จัดแสดงแสตมป์มากมาย พร้อมจุดจำหน่ายแสตมป์และโปสการ์ดสวย ๆ แอบกระซิบนิดหนึ่งค่ะว่าที่นี่เรายังสามารถขอประทับตราหนังสือเดินทางลิกเตนสไตน์ได้ด้วยนะคะ เอาไว้เป็นหลักฐานที่ระลึกว่าครั้งหนึ่งเราเคยมาเยือนที่นี่
พิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากร (Postmuseum Vaduz) เที่ยวลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein)
พิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากร (Postmuseum Vaduz) ตั้งอยู่ชั้นสองของตัวอาคาร ด้านในจัดแสดงประวัติความเป็นมาของแสตมป์ ตัวอย่างแสตมป์ที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลก แท่นพิมพ์ในการผลิตแตมป์ รวมไปถึงโปสการ์ดต่าง ๆ
เราสามารถส่งโปสการ์ดหาตัวเองได้โดยซื้อกับพนักงานที่เคาน์เตอร์ เลือกแบบแสตมป์ที่ต้องการ เขียนชื่อที่อยู่ผู้รับและข้อความให้เรียบร้อย จากนั้นก็นำไปหยอดใส่ตู้ไปรษณีย์ขนาดเล็ก ใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ (ยุโรป) โปสการ์ดก็นำส่งมาถึงบ้าน หากจัดส่งในประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 2-3 อาทิตย์ นอกจากนี้เรายังสามารถขอตราประทับหนังสือเดินทางลิกเตนสไตน์ลงบนพาสปอร์ตได้อีกด้วย โดยมีค่าธรรมเนียมเพียง 3 (ยูโร) ฟรังก์สวิส
- พิกัด:พิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากร (Postmuseum Vaduz)
- เวลาทำการ: ทุกวัน เวลา 09:00 – 17:00 น.
- ค่าแสตมป์หนังสือเดินทางของลิกเตนสไตน์: 3 (ยูโร) ฟรังก์สวิส
ปราสาทวาดุซ (Vaduz Castle) เที่ยวลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein)
ปราสาทวาดุซ (Vaduz Castle) เป็นปราสาทที่พำนักของราชวงศ์แห่งลิกเตนสไตน์ ตั้งตระหง่านอยู่เหนือเมืองหลวงวาดุซประมาณ 120 เมตร เป็นสถานที่สำคัญอีกหนึ่งแห่งของของลิกเตนสไตน์และสามารถมองเห็นได้แต่ไกล ปราสาทมีต้นกำเนิดในศตวรรษที่ 12 ก่อนที่จะมีการสร้างหอคอยที่อยู่อาศัยขึ้นในปี ค. ศ. 1287 จากนั้นก็มีการกล่าวถึงเป็นครั้งแรกในปี 1322 ที่นี่ยังเคยเป็นที่ประทับแบบถาวรของเจ้าชายฟรานซ์โจเซฟที่ 2 และครอบครัว ในปี พ. ศ. 2482 อีกด้วย
ปราสาทวาดุซไม่ได้เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม แต่เป็นไปได้ที่จะชมความสวยงามของปราสาทจากด้านนอกแทน ถ้าหากเดินขึ้นไปบริเวณปราสาท เรายังสามารถมองเห็นวิวสวย ๆ ของเมืองวาดุซจากยอดเขาอีกด้วย
- พิกัด: ปราสาทวาดุซ (Vaduz Castle)
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein National Museum)
ห่างออกไปเพียง 1 นาทีจากพิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากร เราจะพบพิพิธภัณฑ์แห่งชาติลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein National Museum) ตั้งอยู่ สถานที่แห่งนี้จะพาทุกคนไปเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของลิกเตนสไตน์จากสมัยโบราณของมนุษย์ผ่านยุคปัจจุบัน รวมไปถึงด้วยชิ้นส่วนโบราณวัตถุ เครื่องแต่งกายเสื้อผ้าแบบดั้งเดิม ที่แสดงให้เห็นการใช้ชีวิตของผู้คนในสมัยก่อน ผ่านแกลเลอรี่งานศิลปะและนิทรรศการแบบชั่วคราวและถาวรได้อย่างน่าสนใจ การเข้าชมพิพิธภัณฑ์แห่งชาติลิกเตนสไตน์ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มองจากข้างนอกแล้วดูเหมือนเล็ก ๆ แต่พอได้มาเดินจริง ๆ กลับมีเรื่องราวที่น่าสนใจซ่อนอยู่เยอะเลย
- พิกัด: พิพิธภัณฑ์แห่งชาติลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein National Museum)
- เวลาทำการ: วันอังคารถึงวันอาทิตย์ เวลา 10:00 – 17:00 น.
- ราคาตั๋วเข้าชม: 10 (ยูโร) ฟรังก์สวิส
วิหารเซนต์ฟลอริน (St. Florin Cathedral) เที่ยวลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein)
วิหารเซนต์ฟลอริน (St. Florin Cathedral) หรือวิหารวาดุซเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในเมืองวาดุซ สร้างขึ้นในปี พ. ศ. 2417 ด้วยสถาปัตยกรรมนีโอโกธิค ตั้งอยู่ที่ปลายด้านหนึ่งของถนนสายหลักห่างจากพิพิธภัณฑ์แห่งชาติลิกเตนสไตน์เพียง 3 นาที ด้านนอกของวิหารมีหอคอยที่มีลักษณะเรียบง่ายและเป็นโบสถ์ที่ธรรมดามาก แต่เป็นสถานที่มีความสำคัญทางศาสนาที่สำคัญของเมืองวาดุซ
ศาลากลางเมืองวาดุซ (Vaduz City Hall) เที่ยวลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein)
เดินเล่นมาเรื่อย ๆ จากวิหารเซนต์ฟลอรินเราจะพบกับสถานที่สำคัญอีกหนึ่งแห่งของเมืองวาดุซนั้นก็คือ ศาลากลางเมืองวาดุซ (Vaduz City Hall) ตั้งอยู่บนถนนสาย Städtle ซึ่งเป็นย่านที่พักโรงแรม ร้านอาหารและคาเฟ่จำนวนมาก ที่นี่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ. ศ. 2475 ได้รับการปรับปรุงใหม่ในปี พ.ศ. 2525 ถึง พ.ศ. 2527 ด้านหน้าสามารถมองเห็นตราแผ่นดินซึ่งแกะสลักด้วยหินเหนือประตูทางเข้า
นอกเหนือจากสถานที่ดังกล่าวข้างต้นแล้ว ลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein) ยังมีสถานที่ขนาดเล็กอื่น ๆ อีก เช่น พิพิธภัณฑ์งานศิลปะสมัยใหม่และร่วมสมัยจากทั่วโลก (Kunstmuseum Liechtenstein) หอสมุดแห่งชาติลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein National Library) ศาลเมืองวาดุซ (Courthouse) ที่ทำการไปรษณีย์เมืองวาดุซ (Postfiliale Vaduz – Liechtensteinische Post AG) กระทรวงสาธารณสุขเมืองวาดุซ (Amt für Gesundheit) ซึ่งสถานที่เหล่านี้มีขนาดเล็กมากตั้งอยู่ในอาคารที่เราเดินผ่านแล้วนึกไม่ถึงว่าจะเป็นสถานที่สำคัญทางราชการของลิกเตนสไตน์
ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเราก็เดินชมรอบ ๆ ใจกลางเมืองวาดุซจนทั่ว เอาจริง ๆ เราไม่คิดว่าเมืองจะเล็กมากขนาดนี้ เล็กจนแทบทำให้เราประหลาดใจว่าในวันว่าง ๆ ของผู้คนนอกเหนือจากการทำงานแล้วพวกเขาทำอะไรกัน คำตอบนี้อาจจะเดาได้จากภูมิทัศน์ของเมืองที่อยู่บนภูเขา ซึ่งเต็มไปด้วยธรรมชาติรอบด้าน ส่วนที่เป็นบ้านเรือนของผู้คนในพื้นที่ยังมีการทำสวนองุ่นเพื่อทำไวน์อีกด้วย และยังมีพื้นที่เหมาะสำหรับการเล่นสกีในช่วงฤดูหนาว รวมไปถึงระบบการขนส่งสาธารณะและการบริการจัดการบ้านเมืองที่ทำให้ทุกอย่างดูเป็นระเบียบเรียบร้อยไปทุกด้าน สิ่งเหล่านั้นอาจสะท้อนให้เห็นถึงว่าทำไมผู้คนที่นี่ถึงมีความสุขติดอันดับโลก แม้พื้นที่จะเล็กแต่ถ้าบ้านเมืองมีการบริการจัดการที่ดีก็สามารถทำให้ผู้คนมีความสุขได้โดยไม่เกี่ยวกับขนาดของประเทศ
ก่อนเดินทางกลับเนเธอร์แลนด์เราไม่ลืมที่จะไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็มเพื่อให้ได้เงินแบงค์ฟรังก์สวิสเอาไว้สะสมเป็นที่ระลึก เป็นการปิดทริปการขับรถเที่ยวทางไกลในยุโรปช่วงฤดูร้อนจำนวน 2 อาทิตย์ที่เต็มอิ่ม ครั้งหน้าหากมีโอกาสเราคงได้ไปเยือนประเทศสวิซเซอร์แลนด์ตามความตั้งใจโดยที่อย่างน้อยตอนนี้ก็มีเงินฟรังก์สวิสเตรียมไว้แล้ว
สำหรับใครที่เดินทางมาเที่ยวประเทศสวิซเซอร์แลนด์และออสเตรียเมืองใกล้เคียง หากมีเวลาเหลือประมาณหนึ่งวัน ลองนั่งรถไฟมาเที่ยวที่ลิกเตนสไตน์สักครั้งนะคะ ที่นี่เขาเดินทางสะดวกและมีพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชมหลายแห่ง พอเข้าชมพิพิธภัณฑ์เสร็จแล้วก็สามารถไปเดินเที่ยวชมธรรมชาติรอบใจกลางเมืองได้ เป็นประเทศเล็ก ๆ ที่ไม่หวือหวาและมีความเรียบง่ายแบบไม่ต้องปรุงแต่งให้เห็นอยู่หลายมุม
ที่มา :: https://beyondyaovy.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น